Hexagon ช่วยให้ Alloy Specialties เพิ่มความสามารถในการผลิตโดยการตรวจสอบคุณภาพด้วยหุ่นยนต์แบบ "ไม่ใช้แรงงานคน"

19 มกราคม 2021

Alloy Specialties ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนงานละเอียดสำหรับยานอวกาศได้เป็นหนึ่งในผู้เริ่มใช้เทคโนโลยีการตรวจสอบคุณภาพด้วยหุ่นยนต์รูปแบบใหม่ที่มีชื่อว่า Tempo จาก Hexagon’s Manufacturing Intelligence division ที่ช่วยให้บริษัทเพิ่มความสามารถในการผลิตและประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่ผ่านทางการใช้ระบบอัตโนมัติ

Tempo มาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Hexagon ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ผลิตเริ่มปรับให้ขั้นตอนด้านคุณภาพเป็นแบบอัตโนมัติด้วยวิธีที่ไม่จำเป็นต้องอาศัยการลงทุนและการหยุดดำเนินการในระดับใหญ่ ระบบโหลดชิ้นส่วนช่วยให้ทีมจัดคิวงานตรวจสอบหลายรายการและจัดเรียงชิ้นส่วนที่ถูกปฏิเสธได้ นอกจากนี้ การทำงานที่ง่ายดายก็หมายความว่าทุกคนสามารถใช้งานเครื่องวัดสามมิติ (CMM) ได้ การใช้ Tempo ทำให้ Alloy Specialties สามารถเพิ่มผลผลิตโดยการขยายเวลาผลิต ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของแรงงานตลอดวัน และทุ่นแรงให้การดำเนินการแบบ "ไม่ใช้แรงงานคน"

คุณ Dawn M. DiMauro ผู้ดำรงตำแหน่งประธานของ Alloy Specialties กล่าวว่า “ในปี 2020 Alloy Specialties, Inc. ได้กลายเป็นไซต์งานเบต้าสำหรับระบบ Tempo ใหม่ของ Hexagon ทีมสนับสนุนของ Hexagon มีความยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่งและระบบ Tempo ก็ตอบสนองความต้องการทั้งหมดของเราได้ ขณะนี้ เรากำลังผลิตชิ้นส่วนยานอวกาศชิ้นหนึ่งโดยเฉพาะด้วยระบบ Tempo ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยเหตุนี้ เราได้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนในด้านการลดชิ้นส่วนตกค้าง การเพิ่มความสามารถ และการลดภาระของ CMM ตัวอื่นๆ เราคาดหวังว่าจะเพิ่มชิ้นส่วนอื่นไปยังคิวของ Tempo ในไม่ช้า และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ Hexagon ต่อไป” 

การใช้งาน Tempo เป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันโดย Alloy Specialties เพื่อเพิ่มระบบอัตโนมัติ และได้ดำเนินการขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพพร้อมกับการแก้ไขโปรแกรมเร็วขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งช่วยให้บริษัทลดต้นทุนและตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้ ด้วยเหตุนี้ Alloy Specialties จึงกำลังพิจารณาการลงทุนระบบ Tempo เพิ่มเติมในปี 2021

Hexagon ทำงานร่วมกับผู้ผลิต เช่น Alloy Specialties เพื่อปรับระบบคุณภาพให้เป็นแบบอัตโนมัติ ด้วยวิธีที่ไม่ต้องใช้การลงทุนที่มีต้นทุนสูง คุณจะได้รับคุณประโยชน์ต่างๆ จากการใช้เทคโนโลยีการผลิตอัจฉริยะ เช่น ประสิทธิภาพ ผลผลิต และนวัตกรรมการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น แต่ต้นทุนของการใช้เทคโนโลยีใหม่ก็สูงเกินจริงหากจัดหาโดยผู้รวมระบบจากภายนอก โครงการดังกล่าวยังรวมถึงการหยุดดำเนินการระยะหนึ่งเมื่อใช้เทคโนโลยีกับสายการผลิต และเจ้าหน้าที่ก็ต้องรับการฝึกอบรมเพื่อให้โซลูชันใหม่และทำงานในรูปแบบใหม่ 

การลงทุนทีละน้อยกับการปรับขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพให้เป็นระบบอัตโนมัติผ่านโซลูชันอย่าง Tempo สามารถช่วยให้ผู้ผลิตแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงทีและเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่กว้างยิ่งขึ้น  ตัวอย่างเช่น Tempo กำลังช่วยเหลือ Alloy Specialties ในการลดภาระของผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะ ช่วยให้ทำงานอื่นได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในด้านเจ้าหน้าที่ ในสภาวะปัจจุบัน ความต้องการด้านการแยกกะและงานที่มีกำหนดการแต่มีเจ้าหน้าที่ในไซต์งานไม่เพียงพออาจนำไปสู่ปัญหาด้านทรัพยากร การปรับขั้นตอนการวัดและชั่งน้ำหนักให้เป็นระบบอัตโนมัติและเข้าถึงได้ง่ายขึ้นจะช่วยเสริมประสิทธิภาพทีมที่ทำงานหลายฟังก์ชันได้คล่ิองตัวยิ่งขึ้น

คุณ Ingo Lindner รองประธานฝ่ายอุปกรณ์ CMM แบบคงที่จาก Hexagon’s Manufacturing Intelligence division กล่าวว่า "ขั้นตอนทางคุณภาพมักถูกกล่าวถึงภายหลังอยู่บ่อยครั้งเมื่อคำนึงถึงการลงทุนด้านการผลิตแบบอัจฉริยะ แต่ขั้นตอนนี้เป็นองค์ประกอบที่สำคัญของขั้นตอนการผลิต และประโยชน์ในหลายด้านจากการใช้ระบบอัตโนมัติในจุดที่เพิ่มคุณค่าสูงสุด นอกจากนี้ ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับลูกค้าที่ระบบอัตโนมัติไม่จำเป็นต้องปรับขั้นตอนการทำงานใหม่ทั้งหมด Tempo ออกแบบมาเพื่อการติดตั้งอย่างรวดเร็วพร้อมซอฟต์แวร์การกำหนดค่าอัจฉริยะที่แนะนำผู้ใช้ตลอดการติดตั้ง เพื่อให้ไม่ต้องหยุดดำเนินการขณะติดตั้ง  

“Alloy Specialties ได้พบว่าการลงทุนเพิ่มทีละน้อยกับเทคโนโลยีที่เหมาะสมสามารถเห็นผลชัดเจนได้ โดยสามารถช่วยให้ผู้ผลิตแก้ปัญหาการขาดทักษะด้วยการใช้เจ้าหน้าที่ให้เกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ใช้การผลิต "แบบไม่ใช้แรงงานคน" รวมทั้งปูทางสำหรับความสามารถและความคล่องตัวที่จะเพิ่มขึ้นทั่วทั้งธุรกิจ
 

Hexagon เป็นผู้นําระดับโลกในด้านโซลูชั่นความเป็นจริงดิจิทัล (Digital Reality), เซนเซอร์ผสม, ซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีอัตโนมัติต่างๆเราใช้ข้อมูลเพื่อเสริมประสิทธิภาพผลผลิตคุณภาพและความปลอดภัยให้กับการประยุกต์ใช้งานในอุตสาหกรรมการผลิตโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐและยาน  

เทคโนโลยีของเราจะกําหนดทิศทางของการผลิตและระบบนิเวศเกี่ยวกับผู้คนให้มีความเชื่อมโยงและรองรับระบบอัตโนมัติมากยิ่งขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมสู่อนาคตที่ยืดหยุ่นและยั่งยืน

แผนก Manufacturing Intelligence ของ Hexagon มีหน้าที่พัฒนาโซลูชั่นที่ใช้งานข้อมูลจากการออกแบบวิศวกรรมการผลิตและการวัดเพื่อสร้างขั้นตอนการผลิตที่ชาญฉลาดมากขึ้นเรียนรู้เพิ่มเติมที hexagonmi.com

Hexagon (Nasdaq Stockholm: HEXA B) มีพนักงานประมาณ 21,000 คนจาก 50 ประเทศและมียอดขายสุทธิประมาณ 3,800 ล้านยูโรเรียนรู้รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ hexagon.comและติดตามเราได้ที่ @HexagonAB

How can we help?

Do you have a media enquiry or are in need of a visionary speaker? We're glad to help!